ข่าวบิดเบือน กรมควบคุมมลพิษ ปรับค่าควันดำจากท่อไอเสียใหม่จาก 45% เป็นไม่เกิน 35%

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง กรมควบคุมมลพิษ ปรับค่าควันดำจากท่อไอเสียใหม่จาก 45% เป็นไม่เกิน 35% ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน

กรณีการโพสต์ให้ข้อมูลเรื่องการปรับเปลี่ยนมาตรฐานค่าควันดำ จากเดิม 45% เป็นไม่เกิน 35% นั้น ทางกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า จากสถานการณ์มลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะปัญหา PM 2.5 ที่เกิดจากยานพาหนะ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ จึงได้ปรับปรุงมาตรฐานให้เข้มงวดขึ้น และกำหนดให้มีการปล่อยควันดำได้น้อยลง โดยออกประกาศ เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด พ.ศ. 2564 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมมลพิษ แก้ไขปัญหา PM 2.5 จากแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทรถยนต์ และสอดคล้องกับการดำเนินงานภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง 

ในรายละเอียดโดยสังเขปของประกาศฯ ดังกล่าว ได้ระบุมาตรฐานค่าควันดำจากรถยนต์เมื่อตรวจวัดด้วยเครื่องมือตรวจวัดควันดำระบบ วัดความทึบแสง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ ร้อยละ 45 ที่ระยะความยาวของทางเดินแสงมาตรฐานและระยะความยาวคลื่นแสงมาตรฐาน ไม่ได้กำหนดค่าใหม่ที่ร้อยละ 35 ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และหากทำการตรวจวัดควันดำด้วยระบบกระดาษกรอง ประกาศฯ ฉบับนี้ยังกำหนดขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 40 จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ ร้อยละ 50 อนึ่งประกาศฯ ฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 เมษายน 2565 เป็นต้นไป ( 180 วันนับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา )

ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากกรมควบคุมมลพิษ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pcd.go.th หรือโทร 02 298 2000

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : มาตรฐานค่าควันดำจากรถยนต์ปรับจากเดิมที่กำหนดไว้ที่ ร้อยละ 45 เป็นไม่เกินร้อยละ 30 ไม่ใช่ ไม่เกินร้อยละ 35% ตามที่โพสต์ดังกล่าวระบุ โดยประกาศฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 เมษายน 2565 เป็นต้นไป