จากกรณีที่มีคลิปบนโลกออนไลน์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนอนดึกตื่นเที่ยงในระยะยาวเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต ทางศูนย์ต่อต้านข่าวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
การเข้านอนดึกและตื่นนอนสาย ๆ แม้จะรู้สึกว่าได้นอนเต็มอิ่ม แต่ก็ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอยู่ดี เพราะการนอนดึกทำให้นาฬิกาชีวภาพในร่างกายรวน ทำให้มีอาการคล้ายกับ Jet Lag ในทุกวัน คือมีอาการอ่อนเพลียในตอนกลางวัน และขาดสมาธิในการทำงาน นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงสมอง หัวใจ และหลอดเลือด อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจได้มากกว่าคนที่เข้านอนในเวลาปกติด้วย
โดยเมื่อมีรูปแบบการนอนที่เปลี่ยนแปลงไปจะส่งผลต่อกระบวนการเมตาบอลิซึม (Metabolism) ซึ่งเป็นกระบวนการทางเคมีที่ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติในด้านการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย ระบบการเผาผลาญ การควบคุมปริมาณกลูโคส ความดันโลหิต ผิดปกติไป และคนที่นอนดึกเป็นประจำมักจะมีรูปแบบการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ นอกจากจะละเลยการรับประทานอาหารในมื้อเช้า เพราะตื่นไม่ทันแล้ว ก็ยังกินอาหารไม่เป็นเวลา และมักมีการกินอาหารตอนดึก ๆ แทน จึงมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และเบาหวานชนิดที่ 2 นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อการทำงานของสมองที่ทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าคนนอนเร็ว
โดยจากงานวิจัยโดยมหาวิทยาลัย Birmingham ของอังกฤษ พบว่า รูปแบบกิจกรรมหรือการทำงานของสมองในคนที่นอนดึกจะต่างจากคนที่นอนเร็วตื่นเช้า ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเรียนและการทำงานได้ หลังจากทดลองกับกลุ่มอาสาสมัคร 2 กลุ่มที่มีสุขภาพดี กลุ่มหนึ่งนอนเร็วตื่นเช้า และกลุ่มหนึ่งนอนดึกตื่นสาย โดยให้กลุ่มอาสาสมัครเข้าเครื่อง MRI เพื่อสังเกตการทำงานของสมอง รวมถึงดูการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนินและคอร์ติซอล ซึ่งมีผลต่อวงจรการนอนหลับและตื่นของมนุษย์ด้วย ปรากฏว่า รูปแบบการทำงานของสมองของกลุ่มคนที่นอนดึกจะส่งผลให้ในช่วงกลางวันไม่ค่อยมีสมาธิในการจดจ่อกับสิ่งใดนาน ๆ และยังมีปฏิกิริยาการตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ ลดลง รวมถึงมีระดับพลังงานที่ต่ำด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://nit.go.th/ หรือโทร. 02-306-9899